แจกแนวข้อสอบ ก.พ.

แจกแนวข้อสอบ ก.พ.

แนวข้อสอบกพ
กพแนวข้อสอบ
ข้อสอบกพแนว
กพข้อสอบเก่า
หนังสือกพ

แนวข้อสอบเก่า ก.พ. ชุดที่ 1
ความรู้ทั่วไป

8. ข้อใดเรียงลำดับเนื้อความได้ถูกต้องเหมาะสม
1. ทว่าขึ้นอยู่กับผลงานแต่ละชิ้นว่าจะมีสิ่งบางอย่างยกระดับปัญญาแห่งมนุษย์
2. ความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงมีคุณค่าสากล
3. ไม่ว่าวรรณกรรมนั้นจะเขียนในแนวใด
4. คุณค่าแห่งวรรณกรรมนั้นมิใช่จะต้องขึ้นอยู่กับทิศทางที่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์
ก. 3 4 1 2 ข. 1 2 3 4 ค. 2 3 4 1 ง. 1 3 4 2
จ. 2 1 3 4
ตอบ (ข้อ ก)
9. ข้อใดเรียงลำดับความได้ถูกต้องตามลักษณะคำประพันธ์
1. โอ้เวลาป่านฉะนี้เจ้าพี่เอ๋ย 2. กระไรเลยแลเงียบเรียบสงัด
3. จักจั่นหวั่นแว่วแจ้วแจ้วเสียง 4. ดึกสงัดดวงจิตจึงนิทรา
5. น้ำค้างเผาะเหยาะเย็นเซ็นซัด 6. เหมือนนางคอยหมอบกราอยู่งานพัด
7. ต่างสำเนียงขันครวญหวนละห้อย 8. พระพาเอ๋ยเชยมาต้องพระน้องน้อย
ก. 3 7 8 6 1 2 5 4 ข. 1 2 3 4 5 6 7 ค. 3 4 2 1 5 7 8 6
ง. 2 3 4 1 5 6 7 8 จ. 4 3 2 1 8 7 6 5
ตอบ (ข้อ ก)
10. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 2
a. และตกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน
b. พายุหมุนในโซนร้อนนับว่าเป็นตัวการสำคัญ
c. ทำให้แผ่นดินได้รับความชุ่มชื้นทั่วไป
d. ที่ทำให้เกิดฝนตกแผ่เป็นบริเวณกว้าง
ตอบ ง. ที่ทำให้เกิดฝนตกแผ่เป็นบริเวณกว้าง
ข้อใดเป็นการจัดลำดับของประโยคที่กำหนดให้ได้ดีที่สุด (ข้อ 11-15)
11. 1. ทุกคนควรหลีกเลี่ยง 2. เพราะว่า 3. ติดเป็นนิสัยได้เร็ว 4. การพนัน
ก. 1 2 3 4 ข. 2 3 4 1 ค. 4 2 3 1 ง. 1 3 4 2
จ. 4 1 2 3
ตอบ (ข้อ จ)
12. 1. เพราะยังไม่อยากตาย 2. ความกลัวที่สุดของมนุษย์คือความตาย
3. เมื่อพูดถึงความตายต่างก็เกิดทุกข์ใจ 4. ทั้งที่รู้ว่าไม่มีใครหนีพ้น
ก. 1 2 3 4 ข. 4 3 2 1 ค. 1 3 4 2 ง. 2 3 4 1
จ. 3 1 4 2
ตอบ (ข้อ จ)
13. 1. น้ำนมวัวหกแล้วนั่งร้องไห้ 2. ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคขัดขวาง
3. เท่ากับอุปนิสัยรื้อฟื้นเอาความหลัง 4. เข้าหลักสุภาษิตฝรั่งที่คิดถึง
5. มาโทมนัสเสียใจ
ก. 2 3 5 4 1 ข. 5 4 3 2 1 ค. 4 5 3 2 1 ง. 1 2 3 4 5
จ. 3 4 2 1 5
ตอบ (ข้อ ก)
จงเรียงลำดับข้อความตามหมายเลขในข้อต่างๆ ให้ได้ใจความสัมพันธ์กัน (ข้อ 9 – 10)
14. 1. การไปมาในกรุงเทพฯ 2. สมัยนั้น 3. ถนนหนทางยังมีน้อย
4. รถก็มีแต่ของหลวง 5. ยังใช้เรือกันเป็นพื้น 6. ไปไหนจึงต้องอาศัยเรือ
ก. 1 3 2 4 5 6 ข. 5 4 3 2 1 6 ค. 2 3 1 5 4 6 ง. 1 5 2 3 4 6
จ. 2 4 3 1 5 6
ตอบ (ข้อ ค)
15. 1. ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ 2. หรือพูดภาษาไทยปนภาษาต่างประเทศ
3. คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจที่มีภาษาเป็นเอกลักษณ์แสดงความเป็นไทย
4. บางคนถือเป็นของโก้เก๋ 5. การพูดภาษาไทยไม่ชัด
6. แต่ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก
ก. 1 2 3 4 5 6 ข. 6 2 3 4 5 1 ค. 1 5 6 2 3 4 ง. 1 3 5 2 4 6
ตอบ (ข้อ ง)

ข้อบกพร่องทางภาษา 5
16. ข้อใดเป็นประโยค
ก. หนังสือบนโต๊ะ ข. ทำนาบนหลังคน ค. คนไทยกินข้าวทุกวัน
ง. นอนดึกตื่นแต่เช้า จ. ข้อ ข. และ ค. ถูก
ตอบ (ข้อ ค)
17. ข้อใดขาดประธาน
ก. น้ำลดมดกินปลา ข. คนขี้เกียจย่อมยากจน ค. จงทำดีมีความสัตย์ ง. ฝนตกแดดออก
จ. ไม่มีข้อถูก
ตอบ (ข้อ ค)

18. ข้อใดใช้ข้อความไม่ถูกต้อง
ก. ห้ามไม่ให้เก็บดอกไม้ ข. ห้ามเดินลัดสนาม ค. โปรดงดสูบบุหรี่
ง. กรุณาอย่างส่งเสียงดัง จ. ข้อ ก. และ ง. ถูก
ตอบ (ข้อ ก)
19. คำต่อไปนี้คำใดเขียนผิด
ก. บุคลากร ข. ศักดิ์สิทธิ์ ค. อัฒจันทร์ ง. ไอศกรีม
จ. โจทก์จำเลย
ตอบ (ข้อ ก)
20. ข้อใดมีเสียงจัตวาทั้งหมด
ก. หลาน จุ๋ม เลี้ยง หมา ข. เห็น เสือ น้ำ หนี
ค. ฝัน บั่น จ๋อง ขำ รำ ง. หลาน เสียง แจ๋ว เถียง
จ. เหา รัก หลัง แป๋ก
ตอบ (ข้อ ง)

อ่านจับใจความฯ 10
21. จากบทกลอนสันนิษฐานว่าน่าจะมีบรรยากาศอย่างไร
ถึงจะยอมออมอดไม่เอนเอื้อม ก็ไม่เสื่อมขาคิดพิสมัย
จะฝังรักสลักรุมไว้ภายใน น่าน้อยใจกลับมาพาเจ้าตาย
อันความผิดของพี่นี้เหลือล้ำ ให้ชอกช้ำแสนวิตกอกสลาย
ครวญพลางทางทุ่มทอดกาย กอดศพโฉมฉายเข้าโศกา
ก. เงียบเหงา ข. โศกเศร้า
ค. ว้าเหว่ ง. โดดเดี่ยว
ตอบ 2 จากวรรคที่ว่า ให้ชอกช้ำแสนวิตกกอกสลาย คราญพลางทางทุ่มทอดกาย กอดศพโฉมฉายเข้าโศกา
คำสั่ง อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วพิจารณาเลือกตัวเลือก ก – ง ที่ถูกที่สุด
การบูชา หมายถึง การยกย่อง เชิดชูเทิดทูนยอมรับนับถือในคุณงามความดี ซึ่งอาจทำเป็นอามิสบูชาเป็นเครื่องล่อใจ ได้แก่ การบูชาด้วยสิ่งของ ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น หรืออาจทำเป็นปฏิบัติบูชา บูชาด้วยการปฏิบัติตาม ได้แก่ การปฏิบัติตนตามธรรมของพระพุทธเจ้า เช่น การให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม การบูชานับเป็นหลักการเพื่อความเจริญก้าวหน้า เป็นมงคลแห่งชีวิตประการหนึ่ง แต่จักต้องเลือกบูชาเฉพาะบุคคลและสิ่งควรบูชาเท่านั้น โดยยึดหลักการบูชาเฉพาะสิ่งที่ควรบูชา ไม่ควรบูชาก็ไม่ต้องบูชายึดการบูชา ปูชนียบุคคล เป็นหลักสำคัญในการบูชา และจะต้องไม่มีเจตนาที่จะเอาประโยชน์เป็นที่ตั้ง เมื่อบูชาแล้วจะทำให้เจริญขึ้นจิตใจไม่สงบว้าวุ่น มีจิตใจที่สำนึกไปในทางที่สูง บิดา มารดา เป็นบุคคลที่ควรบูชาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นปูชนียบุคคลของบุตรแล้วยังถือว่าเป็นพรหม เป็นบุรพเทพ เป็นบูรพจารย์ และเป็นอาหุไนยบุคคลของบุตร อาจบูชาแบบปัคคัณหะ ถือยกย่อง เช่น การเชิดชู การเทิดทูน สนับสนุนหรือแบบสักการะ ได้แก่ การแสดงความเคารพประกอบด้วยสิ่งของที่ควรบูชา เช่น ดอกไม้ หรืออื่นๆ หรือแบบสัมมานะ คือยึดถือสิ่งที่บูชานั้นเป็นคติก็ได้ หรืออาจใช้ทั้งสามแบบได้
22. ปูชนียบุคคล หมายถึงอะไร
ก. คนดีมีเมตตากรุณา ข. คนที่ประพฤติธรรมอย่างเคร่งครัด
ค. คนที่ควรบูชา ง. คนที่ประพฤติดีเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคม
ตอบ ข้อ ค. คนที่ควรบูชา
23. การที่บุตรธิดานำอาหารหรือเสื้อผ้าไปเคารพ บิดา มารดา เพราะถือว่า บิดา มารดา เป็นอะไร
ก. พรหมของบุตรธิดา ข. บุรพเทพของบุตรธิดา
ค. บุรพาจารย์ของบุตรธิดา ง. เป็นอาหุไนยบุคคลบุคคลของบุตรธิดา
ตอบ ข้อ ง. เป็นอาหุไนยบุคคลบุคคลของบุตรธิดา
24. การที่ศาสนิกชนทำการสวดสรรเสริญคุณของพระศาสดาแทนเป็นการบูชาแบบใด
ก. แบบปัคคัณหะ ข. แบบสักการะ
ค. แบบสัมมานะ ง. แบบอามิสบูชา
ตอบ ข้อ ก. แบบปัคคัณหะ
25. ข้อความใดที่ไม่กล่าวถึง
ก. การบูชาทำให้เกิดความเจริญแก่ตน
ข. การบูชานิยมทำในวันทำในวันมงคลทางศาสนา
ค. การบูชาด้วยอามิสเป็นการบูชาแบบสักการะ
ง. ถูกหมดทุกข้อ
ตอบ ข้อ ข.
(ข้อ 26-30) อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วพิจารณาเลือกตัวเลือก ก – ง ที่ถูกที่สุด
กฐิน หมายถึง ผ้าที่ถวายให้เป็นกฐินภายในกฐินกาล เป็นผ้าพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ คฤหัสถ์ หรือภิกษุหรือสามเณรถวายแก่สงฆ์ภายในกำหนด นับแต่วันแรมหนึ่งค่ำเดือนสิบเอ็ด ถึง วันเพ็ญเดือนสิบสอง ผ้ากฐินจะเป็นผ้าใหม่หรือผ้าเทียมใหม่ก็ได้ เช่น ผ้าเก่า หรือผ้าฟอกสะอาด หรือผ้าบังสุกุล เป็นผ้าที่เปื้อนฝุ่นที่เขาทิ้งแล้วหรือผ้าตากตามร้าน ตามนัยแห่ง พระไตรปิฎก ถือว่าจำนวนสงฆ์ในวัดที่ทอดกฐินได้จะต้องมีตั้งแต่สี่รูปขึ้นไป และต้องจำพรรษาในวัดนั้นครบสามเดือนจึงจะมีคุณสมบัติรับกฐินพระสงฆ์พระสงฆ์จากวัดอื่นอาจมาสมทบ ได้แต่ไม่มีสิทธิ์รับการถวายนี้นอกจากทายกจะถวายอะไรเป็นพิเศษเท่านั้น
ในคัมภีร์ พระวินัยปิฎก ได้กล่าวไว้ว่า ครั้งหนึ่งภิกษุชาวเมืองปาฐา ประมาณ 30 รูป ถือธุดงค์งดวัตรอย่างยิ่งยวด มีความประสงค์จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าซึ่งในขณะนั้นประทับอยู่กรุงสาวัตถี แคว้นโกศล พอเดินทางไปอีกหกโยชน์จะถึงที่ประทับก็จำต้องหยุดจำพรรษาที่เมืองสาเวต ตามพระวินัยบัญญัติ พอออกพรรษา ปวารณา แล้วก็รีบเดินทางแต่ระยะนั้นฝนตกมาก ต้องเดินทางที่ซุ่มไปด้วย โคลนตมจนได้เข้าเฝ้าตามประสงค์ พระพุทธเจ้าจึงมีปฏิสันถารกับภิกษุกับภิกษุเหล่านั้น ทรงทราบความลำบากจึงทรงทรงยกเป็นเหตุและมีพระพุทธานุญาติ ให้พระภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนแล้วกรานกฐินได้ เมื่อกรานกฐินแล้ว จะได้รับอาณิสงฆ์บางข้อตามพระวินัย
26. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วัดที่ทอดกฐินต้องมีพระสงฆ์ไม่น้อยกว่าสี่รูป
ข. วัดที่ทอดกฐินมีพระสงฆ์กี่รูปก็ได้แต่พระสงฆ์ทุกรูปจะต้องจำพรรษาที่วัดนั้น ครบ 3 เดือน
ค. วัดที่ทอดกฐินต้องมีพระสงฆ์จำพรรษาที่วัดนั้นติดต่อกันครบ 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 4 รูป
ง. การทอดกฐินภายในกฐินกาลปฏิบัติตามข้อ 1 ส่วนการทอดกฐินนอกกฐินกาลปฏิบัติตาม ข้อ 1 , 2 หรือ 3 ก็ได้
ตอบ ข้อ ค.วัดที่ทอดกฐินต้องมีพระสงฆ์จำพรรษาที่วัดนั้นติดต่อกันครบ 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 4 รูป
27. คำว่า คฤหัสถ์ ไม้บรรทัดที่ 2 ย่อหน้าที่ 1 หมายถึงอะไร
ก. นักบวชที่ไม่ใช่สงฆ์หรือนักพรต ข. ผู้ครองเรือนที่ไม่ใช่นักบวชหรือฆราวาส
ค. พระสงฆ์รูปอื่นที่ขาดคุณสมบัติรับกฐิน ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข้อ ข.ผู้ครองเรือนที่ไม่ใช่นักบวชหรือฆราวาส
28. จากข้อความ “จึงทรงยกเป็นเหตุ และมีพุทธานุญาตให้พระภิกษุกรานกฐินได้และเมื่อกรานกฐินแล้วจะได้อานิสงส์” หมายความว่าอย่างไร
ก. พระพุทธเจ้าทรงหาสาเหตุของการทอดกฐิน
ข. พระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระภิกษุเย็บจีวรแล้วนำมาให้พระภิกษุรูปอื่นจะได้กุศล
ค. พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้มีการบัญญัติเรื่องการทอดกฐินไว้ในพุทธานุญาต
ง. พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุชักชวนให้พุทธศาสนิกชนเพื่อให้ได้กุศล
ตอบ ข้อ ข. พระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระภิกษุเย็บจีวรแล้วนำมาให้พระภิกษุรูปอื่นจะได้กุศล

 


29. คำว่า ปวารณา ไม้บรรทัดที่ 4 ย่อหน้าที่ 3 หมายถึงอะไร
ก. คัมภีร์พระวินัยปิฎกในพุทธศาสนา
ข. พระวินัยบัญญัติได้กำหนดจริยวัตรของสงฆ์
ค. พระพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา
ง. พิธีกรรมทางศาสนายอมให้สงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนได้
ตอบ ข้อ ง.พิธีกรรมทางศาสนายอมให้สงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนได้
30. พระวินัยปิฎก เหมือนหรือแตกต่างกับ พระไตรปิฎก หรือไม่อย่างไร
ก. แตกต่างกัน เพราะพระวินัยปิฎกเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ข. แตกต่างกันเพราะพระไตรปิฎกเป็นส่วนหนึ่งของพระวินัยปิฎกเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ค. เหมือนกัน เพียงแต่เขียนชื่อแตกต่างกันเท่านั้น
ง. เหมือนกัน เพราะที่มาเป็นคัมภีร์ในสมัยพระเวท มี 3 คัมภีร์
ตอบ ข้อ ก.แตกต่างกัน เพราะพระวินัยปิฎกเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

สรุปบทความ-ตีความ 10
31. “ภาษาเป็นสิ่งที่ซับซ้อนเท่ากับชีวิตมนุษย์ แม้แต่คนที่เกิดมาในครอบครัวเดียวกัน มีประสบการณ์เกือบทุกอย่าง จนเกือบจะเหมือนกัน ก็ยังแตกต่างกันที่จะเรียนและใช้ภาษา” ข้อความดังกล่าวหมายถึง
ก. แต่ละคนมีความสามารถในการเรียนและใช้ภาษาที่แตกต่างกัน
ข. ภาษาซับซ้อนมากจนยากที่จะเข้าใจ
ค. ประสบการณ์เหมือนกัน การใช้ภาษาก็ยังต่างกัน
ง. ชีวิตมนุษย์ซับซ้อน แม้แต่การเรียนภาษายังเรียนไม่เหมือนกัน
จ. ภาษากับชีวิตมนุษย์ซับซ้อนจนยากที่จะเข้าใจ
ตอบ ก. แต่ละคนมีความสามารถในการเรียนและใช้ภาษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เกิดจากความซับซ้อน
ของภาษาเหมือนๆ กับความซับซ้อนชีวิตมนุษย์

 


32. “คนที่หน้าตาเหมือนคนไทย แต่ไม่ได้พูดภาษาไทย เช่น คนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บางคนเกิดในเมืองไทย แม้หน้าตาจะไม่เหมือนคนไทย แต่ก็เป็นคนไทย เพราะเกิดในเมืองไทย” ข้อใดเป็นการสรุปความข้างต้นที่ดีที่สุด
ก. คนต่างชาติถ้าเกิดในเมืองไทยก็เป็นคนไทย
ข. คนไทยต้องเกิดในเมืองไทยและพูดภาษาไทย
ค. คนที่หน้าตาไม่เป็นคนไทยก็นับว่าเป็นคนไทย
ง. คนไทยต้องเกิดในเมืองไทย และหน้าตาเหมือนคนไทย
จ. คนบางชาติหน้าตาเหมือนคนไทย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่คนไทย
ตอบ ก. คนต่างชาติถ้าเกิดในเมืองไทยก็เป็นคนไทย
ตัวเลือก ข. ในข้อความไม่ได้กล่าวถึงคนที่เกิดในเมืองไทยจะต้องพูดภาษาไทย
ตัวเลือก ค. คนหน้าตาไม่เป็นคนไทยจะนับว่าเป็นคนไทยต้องเกิดในเมืองไทยถึงจะถูก
ตัวเลือก ง. ในข้อความไม่ได้กล่าวว่า คนหน้าตาเหมือนคนไทยเท่านั้นจึงจะเป็นคนไทย
ตัวเลือก ง. เป็นข้อสรุปที่ถูกต้องตามข้อความแต่ไม่ใช่ใจความสำคัญ
33. “ความเคารพอ่อนน้อมนี้ ถ้าจะพิจารณากันในแง่สังคมก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นระเบียบวินัยที่ดีงามของคนเรา เป็นเครื่องร้อยรัดให้คนรวมกันเป็นหมู่คณะ ก่อให้เกิดความสามัคคี และรักษาสามัคคีไว้ได้ เพราะเป็นเหตุให้รักใคร่เมตตากรุณาต่อกัน ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าการแสดงความเคารพอ่อนน้อมต่อกันนั้น ต้องแสดงด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงจะบังเกิดผลดี” ข้อใดเป็นการสรุปความข้างต้นที่ดีที่สุด
ก. ความเคารพอ่อนน้อมก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
ข. ความเคารพอ่อนน้อมสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม
ค. ความเคารพอ่อนน้อมเป็นเครื่องร้อยรัดให้คนรวมกันเป็นหมู่คณะ
ง. ความเคารพอ่อนน้อมด้วยความบริสุทธิ์ใจจะเกิดผลดีต่อสังคม
จ. ถ้าไม่บริสุทธิ์ใจการทำความเคารพก็ไม่มีความหมายใดเลย
ตอบ ข. ความเคารพอ่อนน้อมสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม เพราะสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นจากความ
เคารพอ่อนน้อมจากข้อความมีหลายประการ แสดงว่าความเคารพอ่อนน้อมมีความสำคัญสำหรับ
การอยู่ร่วมกันในสังคม

 

34. การรักษาหรืออนุรักษ์ภาษามิได้หมายความว่ารักษาให้เหมือนเดิมทุกประการ เพราะนั่นคือการขัด ขวางการเจริญเติบโตของภาษา ข้อใดตีความได้ถูกต้อง
ก. การอนุรักษ์ภาษาเป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตของภาษา
ข. ภาษาจะเหมือนเดิมทุกประการได้ต้องมีการอนุรักษ์
ค. ภาษาต้องมีการเจริญเติบโต
ง. การรักษาภาษากับการอนุรักษ์ภาษามีความแตกต่างกัน
ตอบ ค. ภาษาต้องมีการเจริญเติบโต
35. “วรรณคดีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองล้วนเกิดจากประสบการณ์และจินตนาการของมนุษย์ที่แสดงออกมาทางภาษาในรูปแบบต่างๆ และมีการพัฒนาโดยเรียงตามลำดับการพัฒนาของมนุษย์ชาติ การเรียนวรรณคดีส่งเสริมพัฒนาการทางด้านการคิด อารมณ์ และคุณธรรมได้ดียิ่ง ช่วยให้ผู้เรียนมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น เข้าใจตนเอง และเพื่อนมนุษย์และสังคมดีขึ้น”
ข้อความข้างต้นไม่ได้กล่าวถึงคุณค่าในด้านวรรณคดีด้านใด
ก. คุณค่าทางสังคม ข. คุณค่าทางสติปัญญา
ค. คุณค่าด้านจริยธรรม ง. คุณค่าด้านวรรณศิลป์
ตอบ ง. ข้อความนี้กล่าวถึง คุณค่าทางสังคม คุณค่าทางสติปัญญา คุณค่าด้านจริยธรรม แต่ไม่ได้กล่าวถึงคุณค่าด้านวรรณศิลป์ คือ คุณค่าด้านรูปแบบ วิธีการแต่ง การใช้ถ้อยคำภาษาความไพเราะ
36. “หลักแห่งความเสมอภาค” ในระบอบประชาธิปไตยโดยทั่วไป ย่อมครอบคลุมไปถึงการมีโอกาสเสมอกันในการที่จะได้รับประโยชน์ และหลักประกันต่างๆ ที่พึงมีพึงได้ในฐานะที่เป็นพลเมืองโดยเสมอภาค ภายใต้เงื่อนไขบทบัญญัติของกฎหมาย เช่น ความเสมอภาคในการศึกษา ความเสมอภาคในการสมัครเข้ารับเลือกตั้งออเป็นต้น สาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือ
ก. ภายใต้กฎหมายพลเมืองทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันตามตาม “หลักแห่งความเสมอภาค”
ข. พลเมืองทุกคนมีหลักประกันจากรัฐบาลที่เหมือนกันตาม “หลักแห่งความเสมอภาค”
ค. ประชาชนสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตาม “หลักแห่งความเสมอภาค”
ง. ตาม “หลักแห่งความเสมอภาค” ประชาชนทุกคนต้องยึดถือในระบอบประชาธิปไตย
ตอบ ข้อ ก. ภายใต้กฎหมายพลเมืองทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันตามตาม “หลักแห่งความเสมอภาค”

 

37. ผงซักฟอกที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีผลทำให้พืชน้ำเจริญเติบโตเร็ว เพราะว่ามีสารอาหารที่เป็นปุ๋ยของพืชแต่จะมีผลทำให้น้ำเสียในระยะหลัง เพราะว่าพืชจะดึงออกซิเจนในน้ำมาใช้ในการหายใจ
ข้อความข้างต้นสามารถสรุปได้อย่างไร
ก. ผงซักฟอดมีส่วนทำให้น้ำเสีย
ข. พืชน้ำเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่น้ำเสีย
ค. ผงซักฟอกให้ประโยชน์แก่มนุษย์ได้หลายอย่าง
ง. พืชน้ำจะไม่ใช้ออกซิเจนในอากาศมาปรุงอาหาร
ตอบ ข้อ ก.ผงซักฟอดมีส่วนทำให้น้ำเสีย
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถาม ข้อ 38-40
คุณแม่พูดว่าคุณน้าควรรู้จักยืดหยุ่นตัวเองอีกสักนิด เพราะบางครั้งคุณน้าก็ทำอะไรตึงเกินไป คนเราต้องรู้จัก............. ให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้ เพื่อให้ต้นมันอยู่รอดในชีวิต เหมือนต้นไม้บางชนิดที่มีการสลัดใบ ลดการคายน้ำเพื่อให้ต้นของมันอยู่รอด เช่น ต้นงิ้ว นุ่น ลั่นทม เป็นต้น
38. คำใดควรเติมลงใน......................
ก. เรียนรู้ ข. ปรับตัว
ค. ทำใจ ง. หาความรู้
ตอบ ข. ปรับตัว คือ การทำตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อม
39. คุณแม่มีจุดประสงค์ใดในการพูด
ก. แนะนำ ข. สั่งสอน
ค. ตักเตือน ง. ว่ากล่าว
ตอบ ก. สังเกตได้จากประโยคที่ว่า “คุณแม่พูดว่าคุณน้าควร”
40. คุณแม่เปรียบเทียบความยืดหยุ่นเหมือนกับสิ่งใด
ก. สถานการณ์ต่างๆ ข. ความอยู่รอดในชีวิต
ค. ต้นไม้ที่มีการสลัดใบ ง. ตัวของน้า
ตอบ ค. สังเกตได้จากคำว่า เหมือน

 

สอบถามข้อสอบ
LIne id
naszaza

แนวข้อสอบภาคก สำนักงาน กพ